การนวดไทย หรือ นวดแผนโบราณ
เป็นการนวดชนิดหนึ่งในแบบไทย ซึ่งเป็นศาสตร์บำบัดและรักษาโรคแขนงหนึ่งของการแพทย์แผนไทย โดยจะเน้นในลักษณะการกด การคลึง การบีบ การดัด การดึง และการอบ ประคบ ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ “นวดแผนโบราณ” โดยมีหลักฐานว่านวดแผนไทยนั้นมีประวัติมาจากประเทศอินเดีย โดยเชื่อว่าน่าจะมีการนำการนวดเข้ามาพร้อมกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และมีการนำเข้ามาในประเทศไทยเมื่อใดนั้นไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน จากนั้นได้ถูกพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขให้เข้ากันกับวัฒนธรรมของสังคมไทย จนเป็นรูปแบบแผนที่เป็นมาตรฐานของไทยและส่งทอดมาจนถึงปัจจุบัน
การนวดไทยเป็นทั้งศาสตร์และศิลปะที่มีมาแต่โบราณ เกิดจากสัญชาตญาณเบื้องต้นของการอยู่รอด เมื่อมีอาการปวดเมื่อยหรือเจ็บป่วยตนเองหรือผู้ที่อยู่ใกล้เคียงมักจะลูบไล้บีบนวดบริเวณดังกล่าว ทำให้อาการปวดเมื่อยลดลง เริ่มแรก ๆ ก็เป็นไปโดยมิได้ตั้งใจ ต่อมาเริ่มสังเกตเห็นผลของการบีบนวดในบางจุด หรือบางวิธีที่ได้ผลจึงเก็บไว้เป็นประสบการณ์ และกลายเป็นความรู้ที่สืบทอดกันต่อ ๆ มา จากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง ความรู้ที่ได้จึงสะสมจากลักษณะง่าย ๆ ไปสู่ความสลับซับซ้อน จนสามารถสร้างเป็นทฤษฎีการนวด จึงกลายมาเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่มีบทบาทบำบัดรักษาอาการและโรคบางอย่าง
การนวดให้ประโยชน์อย่างไร
ปัจจุบันนี้ถ้าพูดถึงการนวดหลายๆ คนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการนวดเท้า นวดตัว นวดผ่อนคลาย หรือแม้กระทั่งนวดเพื่อรักษาอาการ เช่น ปวดหัว ปวดหลัง ปวดขา หรืออาการเจ็บป่วยอื่นๆ แต่การนวดเพื่อบำบัดอาการเป็นอีกทางเลือกหนึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพครบทุกด้าน
ประโยชน์ของการนวด
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดสามารถไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้
- ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนตัว และยืดหยุ่นได้ดีขึ้น เพื่อป้องกันการเป็นพังผืด
- ช่วยกระตุ้นระบบน้ำเหลืองให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
- ช่วยไล่ลมในร่างกาย ไม่ทำให้ท้องอืด
- ช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย
- ช่วยผ่อนคลาย คลายเครียด ทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น และลดอาการซึมเศร้าได้
- ช่วยลดอาการปวด และบีบเกร็งของช่องทางเดินอาหาร ทำให้ระบบย่อยทำงานดีขึ้น
- ช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ ปวดขา ปวดหลัง นิ้วล็อค ไหล่ติด เป็นต้น
- ช่วยให้ระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
